
ถ้าจะพูดถึงทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งของเกาะอังกฤษ คงจะต้องมีชื่อของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน เพราะหากมองย้อนกลับไปในช่วง 30 ปี ให้หลังนี้ถือได้ว่าพวกเขาครองอาณาจักรแห่งฟุตบอลของวงการฟุตบอลอังกฤษอย่างแท้จริง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีชายชาวสก็อตแลนด์ผู้ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษไปอย่างสิ้นเชิง เขาคนนั้น คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
หากจะบอกว่าช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือยุคที่เปลี่ยนชื่อจากฟุตบอลดิวิชั่น 1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็คงจะไม่ผิดมากนัก จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่มาจากการที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในวันที่ยังไม่ได้รับยศเดินเข้ามารับตำแหน่งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สิ่งแรกที่เขาทำไม่ใช่การจัดการเรื่องของฟุตบอลแต่มันคือการจัดการสปิริตภายในทีม ความประพฤตินักเตะ และหลายๆ สิ่งหลายอย่างที่เขาเชื่อว่ามันคือจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าหากสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ภายในได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปีแรกที่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเขายังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักจนเกือบที่จะกระเด็นตกเก้าอี้อยู่แล้ว ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับสวรรค์ได้ขีดเขียนเรื่องราวให้เขาด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในซีซั่น 1989/90 หลังจากนั้นเองความสำเร็จต่างๆ ก็ค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากการมาถึงของนักเตะที่ในภายหลังแฟนๆ “ปีศาจแดง” ต่างเรียกเขาว่า King นั่นก็คือ เอริค คันโตน่า ยอดศิลปินลูกหนังชาวฝรั่งเศส ตอนเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อซีซั่น 1992/93 เป็นต้นมา พวกเขาก็เดินหน้าคว้าแชมป์รายการต่างๆ มาอย่างนับไม่ถ้วน เอาเป็นว่าหากนับคร่าวๆ เฉพาะแชมป์รายการสำคัญๆ ในช่วงยุครุ่งเรื่องนี้ก็ประกอบไปด้วย แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 13 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, แชมป์เอฟ เอ คัพ 7 สมัย และแชมป์ลีก คัพ 4 สมัย ถือว่าเป็นยุคที่แฟนๆ แมนฯ ยูฯ นั้นต่างก็ยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จที่ล้นทะลักเข้ามาชนิดที่แทบไม่อยากจะมีใครเชื่อว่าจะกลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ
แม้ว่าปัจจุบันนี้ช่วงเวลาของยุครุ่งเรื่องแห่งทัพ “ปีศาจแดง” อาจจะไม่รุ่งโรจน์เหมือนช่วงก่อนหน้านี้ที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนทำทีม แต่ด้วยความยิ่งใหญ่ของสโมสรเองทุกๆ คนที่มีหน้าที่ก็พยายามจะสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมและแฟนบอลที่คอยสนับสนุนพวกเขาอยู่เสมอ อย่างไรก็ดีนั่นคือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ แมนฯ ยูฯ ซึ่งน่าจะคงยังไม่สามารถมีทีมไหนมาทำลายสถิติอันสวยหรูของพวกเขาลงได้